ขึ้นแจ้งเตือน Download failed. A valid URL was not provided แก้ไขได้อย่างไร

Download failed. A valid URL was not provided คือปัญหาสำหรับผู้ที่สร้างเว็บไซต์บนโปรแกรม WordPress นี้ และมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ WordPress ต้องมาอัปเดตระบบใหม่ ปัญหานี้ส่งผลต่อผู้ใช้อย่างมากทั้งในเรื่องการขออัปเดต Plugin ต่าง ๆ อัปเดต Theme หรือแม้กระทั่งส่งผลต่อการเขียน Blog

ก่อนจะเริ่มอ่านบทความนี้ ขอเกริ่นก่อนว่าส่วนตัวผู้เขียนไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ด หรือทักษะเกี่ยวกับ WordPress หรือทักษะระดับสูงเกี่ยวกับภาษาคอมพิวเตอร์มากนัก เพียงแต่ว่าผู้เขียนได้พบกับปัญหา และหาทางแก้ เมื่อสามารถแก้ไขได้แล้วขึ้นต้องการนำมาแชร์เพื่อให้ทุกคนสามารถแก้ไขได้ไปพร้อมกัน

” Download failed. A valid URL was not provided “

“WordPress update has failed to complete”

ภาษาอังกฤษประโยคนี้คือปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากที่ต้องการอัปเดตเวอร์ชั่นของ WordPress จาก 5.7.2 เป็น WordPress version 5.8–en

จากการวิเคราะห์โดยส่วนตัว (ยังไม่แหล่งที่มา) ก่อนที่ผู้เขียนจะตัดสินใจอัปเดตนั้น เนื่องการมีปัญหาเกิดขึ้น คือ

1. ไม่สามารถ Embed ลิงค์ YouTube ในหน้า Post ได้ ขึ้นแจ้งว่า “Sorry, this content could not be embedded”
2. ไม่สามารถอัปเดตเวอร์ชั่นของ Plug in ได้
3. ไม่สามารถอัปเดต Themes ต่าง ๆ ได้

ในส่วนขอข้อ 2 และ 3 นั้นจะปรากฏแจ้งเตือนเป็นประโยค Download failed. A valid URL was not provided ซึ่งอาจสร้างความหงุดหงิดให้กับใครหลายคนได้

แต่แล้วการค้นหาคำตอบในหลากหลายเว็บไซต์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทางอังกฤษเสียมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะให้เหตุผลว่า Themes ที่เลือกใช้นั้นไม่สามารถปรับกับ WordPress เวอร์ชั่นใหม่ได้ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับ license นอกจากนี้บางบทความยังคงบอกอีกเช่นกันว่าการขึ้นเตือน Download failed. A valid URL was not provided เป็นกรณีที่หายากมาก

ผู้เขียนแทบไม่เจอบทความภาษาไทยที่จะช่วยและเขียนอธิบาย เราจึงเขียนมันขึ้นมา

วิธีการแก้ปัญหา

ขอออกตัวก่อนว่าต้องขอขอบคุณเว็บไซต์ต้นฉบับที่ทำให้สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ wordpress.stackexchange.com การแก้ไขปัญหาการขึ้นเตือน Download failed. A valid URL was not provided นั้นไม่ยาก เพียงแค่ต้องใช้ Code บางส่วนและใส่ลงไปในไฟล์ functions.php

แล้วไฟล์ functions.php คืออะไร? อยู่ที่ไหน?

ตอบ : สามารถได้ที่ส่วนแก้ไขโค้ดของ Themes ที่คุณเลือกใช้ และจะปรากฏแฟ้มข้อมูลโค้ดต่าง ๆ (สามารถดูได้ตามภาพ) ไปที่หน้าหลักของ WordPress มองหา Appearance > Theme Editor

หลังจากนั้นจะปรากฏหน้าสำหรับการแก้ไข้ Themes นั้น สำหรับใครที่ไม่รู้สัก HTML หรือ CSS หรือภาษาโค้ดอื่น ๆ อาจจะสงสัยว่าต้องไปที่และมันคืออะไร อยากบอกว่าไม่ต้องสนใจหน้าดังกล่าวให้ไปที่แฟ้มขวามือที่มี functions.php เขียนอยู่ คลิกเข้าไปแล้วเลื่อนโค้ดให้ถึงท้ายสุด และใส่โค้ดแก้ไขลงไป (เพื่อ avoid ssl check ) – สามารถมองหาโค้ดได้ที่ข้างล่าง

สามารถ copy โค้ดข้างล่างและนำไปวางได้เลย หลังจากนั้นอย่าลืม กด Update File

add_filter( 'http_request_args', function ( $args ) {

    $args['reject_unsafe_urls'] = false;
    
    return $args;
}, 999 );

cr. wordpress.stackexchange.com

หลังจากวางโค้ดและ Update File แล้วต้องทำอย่างไรต่อ ?

Code ดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว จากนั้นก็สามารถเข้าไปอัปเดตเวอร์ชั่นของ WordPress ได้แล้ว โดยกลับไปที่หน้า

และทำการกดปุ่มเพื่ออัพเดตเวอร์ชั่นได้เลย หลังจากนี้ก็สามารถอัปเดตได้โดยไม่มีปัญหา

เมื่อเข้าสู่หน้า Update จะปรากฏการอัปเดตเวอร์ชั่น WordPress และอัปเดตตัว Plugin ต่าง ๆ กดไปที่ ‘update now’ และรอระบบทำการประมวลสักครู่ หลังจากการอัปเดตสำเร็จจะปรากฏตามรูป เพียงแค่นี้คุณก็สามารถอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่และสามารถอัปเดตตัวอื่น ๆ ได้เช่นกัน

คุณสามารถเช็คการทำงานอื่น ๆ เช่น ทดลองอัปเดต Plugin หรือ อัปเดต Theme ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งลอง Embed วิดีโอหรือ ลิงค์ YouTube ดู หากไม่มีปัญหาแสดงว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ

หยุดอ่านตรงนี้ก่อน : ข้อสำคัญที่ควรทราบ > วิธีเป็นการแก้ในส่วนเฉพาะ Theme ที่ใช้อยู่ ณ ตอนนั้นเท่านั้น ในกรณีที่คุฯเปลี่ยนไปใช้ Theme อื่นต้องกลับไปแก้ไขในส่วน functions.php ของ Theme อีกครั้ง

จบไปแล้วกับบทความที่ช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องการอัแเดตเวอร์ชั่น WordPress ไม่ได้ ไม่สามารถอัปเดต Theme ได้ หรือการโหลด Theme ใหม่มาใช้ หรือการอัปเดต Plug in หรือแม้กระทั่งการเขียน Blog ที่ไม่สามารถ Embed วิดีโอหรือ ลิงค์ YouTube ได้ ทุกอย่างสามารถจบได้ด้วย โค้ดเดียว สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ และเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนแก้ไขปัญหาได้ อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง > เปลี่ยน WordPress ให้เป็น ภาษาไทย