เรื่องสีผมเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับเหล่าสาวกเปลี่ยนสีผม เพราะการที่เราเลือกสีผมสักสีนั้น บางครั้งผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ได้ตามที่ต้องการ ฉะนั้นการมองหารีวิวจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใครหลายคนตามหา และในบทความนี้จะมารีวิว สีผมแบรนด์ลิเซ่โฟมครีมเปลี่ยนสีผม สีดาร์คช็อคโกแลต ซึ่งเป็นสีแนวธรรมชาติออกโทนสีน้ำตาลสำหรับคนที่ไม่ต้องการสีฉูดฉาดและสวยแบบสาวเท่ สไตล์สาวมั่น
แต่ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่เราจะเปลี่ยนสีผมทั้งหัวโดยจะได้สีทั้ง 2 โทนกัน เพราะสีผมของเรามี 2 สี ขอท้าวความว่าตามเทรนด์ทำผมตาม Lisa BlackPink จึงมีสีผมสองสีผม คือสีดำและสีทอง(จากการกัด)
เราไม่คาดหวังเยอะ เนื่องจากสีที่เลือกมาออกแนวน้ำตาลเข้ม ฉะนั้นมันจะช่วยกลบสีผมสีทองได้ แต่ก็แอบคาดหวังว่าส่วนที่ทองจะออกมาแนวสีน้ำตาลละมุนหน่อย ๆ
ก่อนจะเริ่มรีวิว งั้นเรามาเริ่มกันที่ตัวกล่องของ Liese Creamy Bubble Color Dark Chocolate รอบ ๆ ตัวกล่องจะบอกรายละเอียดของ ชนิดของครีมที่ใช้ย้อม วิธีการใช้งาน และโทนสีโดยประมาณที่จะออกมา

และสิ่งที่อยู่ข้างในกล่องจะประกอบไปด้วย :

- ลิเซ่ แฮร์ คัลเลอร์ แอลเอดับบลิว8 ดาร์ค ช็อคโกแลต 34 มล.
- ลิเซ่ แฮร์ คัลเลอร์ ดีเวลลอปเปอร์ ดี 66 มล.
- ลิเซ่ รีแพร์ ทรีทเมนท์ เอ 8 มล.
- คู่มือ
- ถุงมือ
- หัวปั้ม / บีบโฟม
คำแนะนำ : 1 กล่องใส่สำหรับผมที่ยาวปานกลางหรือคลุมไหล่ หากยาวกว่านี้ต้องใช้ 2 กล่อง
✨พิกัด: https://shope.ee/501AIXEK9e
ปกติแล้วสีผมจะมีทั้งแบบครีมและโฟม เราเลือกแบบโฟมเพราะมันย้อมง่ายมาก แถมยังสะดวกอีกด้วย แต่ข้อแตกต่างที่เราสังเกตได้เลยระหว่างครีมและโฟสคือ สีของแบบครีมจะมีความติดทนนานกว่าแบบโฟม แต่เรื่องความง่ายต้องยกให้แบบโฟมเลย เพราะแค่บีบและปาด ก่อนที่เราจะไปดูการย้อมผมของ Liese นั้นเราอยากให้ทุกคนมาดูพื้นสีผมของเราก่อนจะมีทั้งสีดำ(ผมธรรมชาติ) มีติดเหลือบของน้ำตาลเล็กน้อย เพราะสีที่ย้อมก่อนหน้านี้ และสีทอง(ผมที่ผ่านการกัดมานับครั้งไม่ถ้วน)

ขอบอกก่อนว่าก่อนที่จะตัดสินใจมาย้อมผมสีนี้ เราก็ย้อมสีผมก่อนหน้านี้มาก่อน เป็นโทนสีเขียว ในส่วนสีทองที่ผ่านการกัดนั้นจะสวยมากกกกก แต่มันก็ค่อย ๆ เริ่มหลุด และโคนผมดำก็เริ่มขึ้น จนเราตัดสินใจมาย้อมแนวสีธรรมชาติดู เห็นการกัดผมแบบนี้ทุกคนคงเดาออกว่าเราทำตามเทรนด์ผม Lisa Blackpink ที่แบบกัดข้างในและข้างนอกเป็นดำ มันสวยจริง ๆ นะตอนนั้น55555
เอาหล่ะไม่พูดมากทำเพลง ขอเริ่มด้วยการย้อมผมตามฉบับเราเลยแล้วกัน แล้วไปดูผลลัพธ์ของการย้อมครั้งนี้กัน!
อย่างที่เราพิมพ์บอกไปข้างต้นว่าการย้อมผมแบบโฟมนั้นมีข้อดีคือย้อมง่าย! ไม่ต้องแบ่งผมให้ยิบย่อย แต่ข้อเสียคือกลิ่น เราย้อมผมแบบโฟมก็บ่อยพอตัวแต่ไม่เคยชินกับกลิ่นมันสักที สำหรับใครที่ย้อมครังแรกคงรับไม่ได้รับกลิ่น เพราะมันจะแทงเข้าจมูก แต่พอย้อมไปสักพักก็จะชิดและงง ๆว่ากันหายไปไหน55555
เริ่มแรก เราจะแบ่งผมเป็น 3 ส่วน ย้อมจากโคนไปปลาย ซึ่งเป็นหลักการที่ผิดมาก เพราะหลักการที่ถูกคือการย้อมกลางไปปลาย และโคนทีหลังเนื่องจากโคนคือผมใหม่ที่สีจะติดง่ายสุด (ปวดหัวกับตัวเอง)

เพื่อน ๆ อาจจะเห็นว่าผมเราก็ยาวพอตัว แต่เนื้อโฟมยังเหลือเยอะ ฉะนั้นตอนเริ่มย้อมให้ชโลมเนื้อโฟมไปเยอะ ๆ จนเปียกเลยนะ ไม่งั้นจะเหลือตอนท้ายเยอะ หลักจากการย้อมหากใครต้องการให้สีติดมากก็ทิ้งไว้นานหน่อยสัก 50 นาที- 1 ชั่วโมง แต่เราเป็นคนเลือดร้อน เอ้ย! ใจร้อน ทิ้งไว้แค่ 30 นาที (แหกกฎอีกหนึ่ง)
ผลลัพธ์หลังจากย้อมเสร็จ
ทาด๊าาาา! นี่คือผลลัพธ์หลังจากที่เราย้อมผมด้วยโฟมเปลี่ยนสีผม ลิเซ่ (Liese) สี Dark Chocolate สีผมที่ได้ออกมาก็จะประมาณนี้ เราแบ่งออกเป็นสองส่วนให้ดูกันง่าย ๆ ทั้งส่วนที่พื้นผมเป็นสีดำ และส่วนที่พื้นผมเป็นสีทอง
🖤 พื้นผมสีดำ : ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักหลังจากการย้อม แต่จะมีประกายน้ำตาลหม่น ๆ ออกมาเวลากระทบกับไฟหรือแสง ซึ่งตรงนี้เราก็ไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนมากอยู่แล้ว เนื่องจากสีที่เลือกมาก็เข้มพอตัว

💛 พื้นผมสีสว่าง(ทอง) : หลังจากการย้อมสีดาร์กช็อคโกแลคสามารถกลบสีทองได้อย่างแนบเนียน(?) ก็คือจากสีที่สว่างดูซอร์ฟลง และสีที่ได้ออกมาก็จะเป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่ไม่ติดส้มจะดีหม่น ๆ ละมุนมาก

📅 รีวิวหลังจากผ่านไป 10 : ในระหว่าง 10 วันนี้ ก็มีการสระผมวันเว้นวัน แน่นอนอยู่แล้วว่าสีก็เริ่มหลุดไปทีละน้อย และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้ออกมา สีน้องเขาจะเริ่มออกน้ำตาลอ่อนขึ้นและมีเหลือบเทาหม่นปรากฏขึ้นมา (ในส่วนที่พื้นเดิมเป็นสีทอง) และในส่วนพื้นผมที่ดำหลังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงแน่ชัด

” ถ้าถามหาเรื่องราคา ตอนนั้นเราซื้อเป็น 1 แถม 1 ราคาอยู่ที่ 300 กว่าบาท “
สำหรับใครที่อ่านรีวิวการย้อมผมด้วย Liese สี Dark Chocolate อาจจะช่วยประกอบการตัดสินใจได้บ้างแล้วว่าจะย้อมดีมั้ย เพราะสีออกจะจะดูละมุนและเน้นไปทางธรรมชาติ แบบสาวดเท่ ๆ วัยเอ๊าะ ๆ และหากต้องการดูแบบภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ตามมาที่นี่เลย! > รีวิวโฟมย้อมผม Liese
สามารถหาอ่านบทความเกี่ยวกับการรีวิวของต่าง ๆ ได้ที่ > รีวิว (Reviews)