ปกติการเพาะเมล็ดผัก หัวใจหลักๆ ก็น่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ และดินเพาะ
สำหรับการเลือกเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันผมคิดว่าเราสามารถหาซื้อเมล็ดผักได้ง่ายมาก ตามตลาด ร้านเกษตรทั่วไป หรือในโฮมโปรก็ยังมีเลย แต่สำหรับการเลือกซื้อ แนะนำว่าให้สังเกตวิธีการเก็บรักษาของร้านเค้าซักหน่อย ว่าวางอยู่ในร่ม อากาศถ่ายเท และก็เป็นเมล็ดที่ใหม่ (ดูจากวันที่ผลิตด้านหลังซอง ไม่เกิน 1 ปี ผมว่าถือว่ายังใหม่นะ)
สำหรับการเพาะกล้าผมว่ามันไม่ค่อยมีสูตรตายตัวเท่าไหร่ อยู่ที่ความถนัดและสภาพแวดล้อมของเรา วันนี้เลยอยากจะแชร์วิธีการเพาะกล้าแบบของผม เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจ
เริ่มต้นจากนำเมล็ดพันธุ์ที่เราต้องการ แช่ในน้ำเปล่า(ผมใช้น้ำกรอง เพื่อเลี่ยงครอรีน) หรือถ้าน้ำอุ่น 60 องศา ก็จะดี.. แช่งไว้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง (จะปลูกกี่ต้นก็ใช้จำนวนเมล็ด 2-3 เท่า) ที่เหลือ ก็ใช้หนังยางรัดแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ผมใช้วิธีนี้ซื้อเมล็ดทีปลูกได้เป็นปีๆ เลย
จากนั้นนำออกมาผึ่งให้พอแห้งบนกระดาษชำระพับ 4-5 ชั้น ที่ทำแบบนี้เพื่อเวลาเราหยิบเมล็ดไปหยอดลงถาดเพาะจะได้ง่าย ไม่ติดมือ
สำหรับดินเพาะ โดยปกติผมใช้ดินอย่างเดียว หรือ ดิน+ขุยมะพร้าว(อัตราส่วน 1:1) เอามาล่อนในตะกร้าพลาสติก ที่ขายตามร้าน 20 บาท เพื่อให้ขนาดดินมันเล็กหน่อย เวลาใส่ในถาดเพาะจะได้ง่าย แล้วอีกอย่างรากของต้นกล้าจะได้กระจายได้ง่าย ..แต่วิธีนี้บางทีธาตุอาหารในดินไม่พอ ต้นไม้อาจจะไม่โต เราอาจจะต้องมาช่วยเสริมปุ๋ย หรือรดน้ำหมักช่วยมันหน่อย
*** ไม่แนะนำดินถุงพวก 3-4 ร้อยเลยนะครับ เพราะว่าเท่าทีลองมาหลายยี้ห้อ ต้นไม้แทบไม่โต เหมือนไม่มีสารอาหารอะไรเลยในนั้น
แต่ตอนนี้ผมมีวิธีใหม่คือใช้ดินเพาะกล้าสำเร็จรูป บางร้านก็เรียกกว่ามีเดียเพาะกล้า ซึ่งราคาจะถูกกว่าพีทมอสมากก หน้าตาถุงเป็นแบบนี้ครับ กระสอบละ 180 บาท (ดินแบบนี้เค้าจะผสมปุ๋ยมาให้เลย ให้พอสำหรับการเลี้ยงต้นกล้าโดยที่เราไม่ต้องเสริมอะไรเลย) ซื้อมาถุงใช้ได้นานเลย แต่เวลาใช้งานแนะนำให้ล้างมือก่อนตักดินในถุง เพื่อป้องกันเชื้อไม่ดีเข้าไปในถุง และหลังใช้เชือกมัดปิดให้สนิท
หลังจากนำดินใส่ถาดเพาะแล้ว ทำการรดน้ำให้ดินชุ่มก่อน 1 รอบ แนะนำให้ใช้เสปร์ยรดน้ำต้นไม้ หรือว่าฟ็อกกี้ฉีดนำรีดผ้าก็ได้ เพื่อไม่ให้น้ำแรงจนทำให้ดินเพาะหลุดออกจากถาด
จากนั้นใช้ไม้จิ้มทำหลุดที่กลางช่องเพาะลงไปประมาณ 0.5 เซนติเมตร เวลาเราหลอดเมล็ด เมล็ดจะได้อยู่ตรงกลาง สวยงามและง่ายตอนย้ายต้นกล้าลงปลูก
<img class=”alignnone wp-image-1534″ src=”http://www.longtumdoo.com/wp-content/uploads/2016/08/2016-08-26_22-57-39ข2 bupropion 100 mg.jpg” alt=”2016-08-26_22-57-39ข2″ width=”782″ height=”426″ />
การหยอดเมล็ด เราจะหลอดช่องละ 2-3 เมล็ดเผื่อบางเมล็ดไม่งอก หรือต้นไม่สวยจะได้มีสำรองไว้ทีหลัง จากนั้นรดน้ำอีกรอบ ให้ดินปิดหลุมนิดนึง จะได้ช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้กับเมล็ดผักของเรา
เสร็จแล้วนำกะบะเพาะของเราไปพักไว้ในที่ร่ม เพื่อลดการคายน้ำ และหมั่นรดน้ำเช้าเย็น หรือคอยสังเกตว่าถ้าดินแห้งก็รดเพิ่มได้เลย
..ช่วงนี้เรายังใช้ฟ็อกกี้ รดน้ำอยู่นะครับ น้ำจะได้ไม่แรงเกินไปจนทำให้ดินแน่น และหากบ้านไหนมีนกเยอะ แนะนำให้เอาตะกร้ามาปิดซักนิด เพื่อป้องกันนกมากินเมล็ดผัก
ผ่านไปประมาณ 3 วัน หรือรอให้ต้นกร้าสูงขึ้นมาประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร ให้นำออกไปกลางแจ้งได้เลยครับ ถ้าช้าต้นกล้าจะยึดหาแสง ทำให้แข็งแรง และรดก็น้ำยาก (ถ้ารดน้ำแรงต้นก็จะล้ม)
จากรูปจะเห็นว่าพลาดไปแค่ 1 ช่องที่ไม่งอก แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เราสามารถย้ายต้นกล้าที่เกินจากช่องอื่นมาลงได้
หลังจากนี้ 15 วัน หรือ รอจนต้นกร้ามีใบจริง 1-2 คู่ เราก็สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้เลย รอติดตามชมต่อต่อไปนะครับ ^^